ยามอุบากอง (อัพเดท2566) อ่านแล้วเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย

จะออกรถใหม่ ซื้อบ้าน หรือแม้แต่เดินทางออกนอกบ้านไปปลายทางการดูฤกษ์งามยามดีก่อนออกเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้เดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย โดยหนึ่งในวิธีเช็คฤกษ์งามยามดีก่อนออกเดินทางก็คือ ‘ยามอุบากอง’

บทความนี้เลยขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักพร้อมเช็คยามอุบากองให้เข้าใจศาสตร์ด้านโหราศาสตร์นี้มากขึ้น

ทำความรู้จัก ‘ยามอุบากอง’ คืออะไร

ยามอุบากอง หรือที่บางคนนิยมเรียกว่า ยันต์อุบากอง คือ ศาสตร์พยากรณ์ศาสตร์หนึ่งที่เอาไว้ดูฤกษ์งามยามดี วันเวลาเหมาะสมจะทำสิ่งใด ในช่วงเวลาไหน เพราะในแต่ละวันจะมีวันที่เป็นวันเคราะห์ วันมีลาภ วันที่ควรออกเดินทาง และวันที่ไม่ควรออกเดินทาง โดยได้รับความนิยมมาตั้งแต่สมัยก่อน จะไปที่ไหนหรือทำอะไรมักจะต้องเช็ควันเวลาตามยามอุบากองเสมอ เพื่อป้องกันเวลากาลกิณีที่อาจส่งผลเสียต่อเจ้าชะตาได้

ยันต์อุบากอง คืออะไร?

เหตุที่เรียกว่า ยันต์อุบากอง ก็เพราะในสมัยก่อนจะเขียนตารางอุบากองลงบนผืนผ้าคล้ายยันต์ แถมยังมีการเล่าสืบต่อมาอีกว่า อุบากอง มาจากนายทัพพม่าที่เข้ามารบกับไทยก่อนจะถูกจับได้ในครั้งนั้น โดยอุบากองได้มีตำราดูฤกษ์ดังกล่าวมาด้วย ผ่านการทำเป็นยันต์คล้ายตารางหมากรุกมีตัวเลขในยันต์สักติดไว้ที่แขน เมื่ออุบากองต้องจำอยู่ในคุก ได้บอกตำรานี้แก่ไทย จึงเรียกกันว่า ‘ยันต์อุบากอง’

ที่มาของยามอุบากอง

อย่างที่ได้เล่าไปคร่าวๆ ก่อนหน้าว่า อุบากอง มีที่มาจากนายทัพพม่า

ต้องย้อนกลับไปก่อนว่า สมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก (รัชกาลที่ 1)  ขณะนั้นพระเจ้ากรุงอังวะของพม่าได้สั่งให้กองทัพไปตีเชียงใหม่ แต่กลับแพ้พ่ายและมีแม่ทัพชื่อ อุบากอง โดนจับตัวไปเป็นเชลยศึก เมื่อเช็คร่างกายก็พบยันต์บนแผงอกของแม่ทัพพม่ารายนี้ ภายหลังได้รับการปล่อยตัว เพราะมีญาติเป็นคนไทยจริง

แต่ด้วยความที่ใช้คาถาอาคมจนชาวบ้านเชื่อและเป็นที่ปั่นป่วนแก่สังคม จนถูกกล่าวหาและโดนจับในเวลาต่อมา แต่คาถาอาคมที่เขาใช้เป็นของจริงจึงสะเดาะคลายโซ่ตรวนออกมาได้ก่อนจะหนีกลับพม่าไป ทำให้ยามอุบากองได้รับการบอกต่ออย่างแพร่หลายจวบจนปัจจุบัน

ประเภทของการดูฤกษ์งามตามยามอุบากอง

ในส่วนของการดูฤกษ์ตามยามอุบากองจะมีให้เลือกดู 3 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่

1. ดูฤกษ์งามยามอุบากองตามวัน-เวลา
2. ดูฤกษ์งามยามอุบากองตามข้างขึ้น-ข้างแรม
3. ดูฤกษ์งามยามอุบากองตามดิถีค่ำและเวลา

อัปเดต! วิธีอ่านยามอุบากอง 2566

ก่อนที่จะพาไปดูวิธีอ่านยามอุบากองที่ถูกต้องตามหลักในปี 2566 จะขอพามาดูกลอนที่ทำให้ทุกคนรู้จักการอ่านยามอุบากองที่ถูกวิธี และสำหรับในส่วนของสัญลักษณ์แต่ละรูปแบบจะมีชื่อเรียกในบทกลอนต่างกัน ดังนี้

“ศูนย์หนึ่งอย่าพึ่งจร แม้ราญรอนจะอัปรา

สองศูนย์เร่งยาตรา จะมีลาภสวัสดี

ปลอดศูนย์พูลสวัสดิ์ ภัยพิบัติลาภบ่มี

กากบาทตัวอัปรีย์ แม้จรลีจะอัปรา

สี่ศูนย์จะพูนผล แม้จรดลดีหนักหนา

มีลาภล้นคณนา เร่งยาตราจะมีชัย”

– วงกลม (●) เรียกว่า “ศูนย์” 

ปลอดศูนย์ =  ฤกษ์ปกติกลางๆ ไร้โชค ไร้เคราะห์ สามารถออกเดินทางได้ มาจาก “ปลอดศูนย์พูลสวัสดิ์ ภัยพิบัติลาภบ่มี”

ศูนย์ 1 ตัว = ไม่แนะนำให้ออกเดินทาง อันตราย จะทำสิ่งใดก็พ่ายแพ้ มาจาก “ศูนย์หนึ่งอย่าพึ่งจร แม้ราญรอนจะอัปรา”

ศูนย์ 2 ตัว = ฤกษ์ดี ให้รีบออกเดินทาง จะมีโชคลาภมงคล มาจาก “สองศูนย์เร่งยาตรา จะมีลาภสวัสดี”

ศูนย์ 4 ตัว = ฤกษ์ดีมาก ควรรีบออกเดินทาง มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง มาจาก “สี่ศูนย์จะพูนผล แม้จรดลดีหนักหนา”

– กากบาท (x) เรียกว่า “กากบาท”

กากบาท = ฤกษ์อัปมงคล ห้ามออกเดินทางโดยเด็ดขาด “กากบาทตัวอัปรีย์ แม้จรลีจะอัปรา”

วิธีการดูยามอุบากอง

1. ดูฤกษ์ยามอุบากองตามวันเวลา

หนึ่งในรูปแบบการดูฤกษ์งามยามดีตามฉบับอุบากองที่ได้รับความนิยมสูงสุด นั่นก็คือ ดูตามวันเวลา เนื่องจากมีเพียง 1 ตาราง พกพาสะดวก และดูเข้าใจง่าย ตรวจเช็คได้ทุกวันตั้งแต่จันทร์ถึงอาทิตย์ และแบ่งช่วงเวลาเป็นกลางวัน 5 ยาม กลางคืน 5 ยาม โดยใน 1 ยามอุบากองจะเท่ากับ 2 นาฬิกากับ 4 บาท หรือหมายถึง 2 ชั่วโมง 24 นาที (1 บาทเท่ากับ 6 นาที) ดังนี้

ดูฤกษ์ยามอุบากองตามวันเวลา

2. ดูฤกษ์ยามอุบากองตามข้างขึ้นข้างแรมและเวลา

การเดินยามตามแบบข้างขึ้นข้างแรมจะได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่มีความเชื่อพิเศษ เช่น บูชาเครื่องรางของขลัง ฯลฯ แบ่งช่วงวันและเวลาเหมือนแบบแรก โดยมี 2 ตารางใช้ประกอบกัน หากในช่วงข้างขึ้นจะเป็นตารางเดียวกับยามอุบากองแบบที่ 1 แต่ถ้าเป็นข้างแรมต้องกลับเวลาจากเย็นไปเช้า

ตารางยามอุบากองข้างขึ้น

ตารางยามอุบากองข้างแรม

3. ดูฤกษ์ยามอุบากองตามดิถีค่ำและเวลา

การฤกษ์ยามอุบากองตามดิถีค่ำและเวลาจะคล้ายแบบดูตามวันเวลา เพียงแต่ตัดวันศุกร์และวันเสาร์ออก และอ้างอิงตามดิถีค่ำข้างขึ้น-ข้างแรม โดยจะนับทีละช่องเริ่มจาก ๑ ค่ำ ถึง ๕ ค่ำ พอขึ้น ๖ ค่ำ ก็เริ่มนับที่ช่องแรกใหม่วนไปเรื่อยๆ จนถึงค่ำที่ต้องการ โดยแบบที่นิยมใช้กันอยู่ปัจจุบันก็มีทั้งหมด 3 แบบ คือ ตามความสะดวกหรือข้อมูลที่มีอยู่ดังนี้

1. ตามปฏิทินจันทรคติไทย ตามการทดวัน ทดเดือน แต่ต้องระวังการคาดเคลื่อนที่มากกว่าแบบอื่น
2. ตามตำแหน่งจันทร์จริง ตามปฏิทินโหราศาสตร์ ที่มีบอกดิถีตำแหน่งดาวไว้แล้ว
3. ตามปฏิทินจีน ค่อนข้างแม่นยำกับตำแหน่งจันทร์จริง

ตารางยามอุบากองตามดิถีค่ำและเวลา

แม้ดวงชะตาหรือโหราศาสตร์อาจไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เพราะเขาว่า ดวง 50% ดำเนิน 50% แต่การเช็คยามอุบากอง เพื่อหาฤกษ์งามยามดีก่อนออกเดินทางให้แคล้วคลาดปลอดภัยเสริมชะตาให้โชคลาภตามมา เพิ่มความมั่นใจให้ทุกการเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งวิธีให้ผู้ขับขี่คลายความกังวลได้ไม่น้อย เพราะงั้นถ้าคุณเป็นสายมูหรือเชื่อในเรื่องของโหราศาสตร์ก็อย่าลืมเช็คยามอุบากองตามที่เรานำมาฝากในบทความนี้กัน!

• Facebook
• Twitter
• Line