ตรอ. คืออะไร? ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีต้องรู้อะไรบ้าง?

การตรวจสภาพรถยนต์กับสถานตรวจสภาพรถเอกชนเป็นหนึ่งในเรื่องจำเป็นที่ผู้ใช้รถใช้ถนนไม่ควรพลาด เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของรถยนต์ก่อนใช้งานจริง ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัย แต่ยังเกี่ยวข้องกับการนำไปยื่นต่อภาษีรถยนต์

ก่อนต่อภาษีรถยนต์ที่ ตรอ.ใกล้บ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง? เพราะงั้นมาเช็คเลยครับ!

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

• ต่อภาษีรถยนต์ ทำอย่างไรบ้าง?
• วิธีจองทะเบียนรถสวย
• ยางรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี?

ตรอ. คืออะไร?

ปกติแล้ว ผู้ใช้รถใช้ถนนจำเป็นจะต้องมีการตรวจสภาพและดูแลรถยนต์ตามความเหมาะสม เพื่อให้ใช้งานบนถนนได้อย่างปลอดภัยทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมเส้นทาง แต่สำหรับการต่อภาษีที่ ตรอ. นั้น

ตรอ. ย่อมาจาก ‘สถานตรวจสภาพรถเอกชน’ เป็นสถานที่ตรวจสภาพรถยนต์ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของรถว่า มีความพร้อมใช้งาน และไม่สร้างมลพิษทางอากาศ ซึ่งหลังจากตรวจผ่านเรียบร้อยแล้วก็จะได้เอกสารนำไปยื่นต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยไม่ต้องไปรอตรวจสภาพรถที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่ง

ตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. ต้องตรวจอะไรบ้าง?

ในส่วนของการตรวจสภาพรถยนต์ที่ตรอ. ก่อนต่อภาษีรถยนต์จะมีรายละเอียดที่ต้องตรวจ ดังนี้

• ตรวจสอบความถูกต้องข้อมูลของรถ เช่น แผ่นป้ายทะเบียนรถ ลักษณะรถ หมายเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ เป็นต้น
• การตรวจภายในรถ เช่น ระบบบังคับเลี้ยว ระบบรองรับน้ำหนัก ระบบเบรกรถ ระบบเชื้อเพลิง ฯลฯ
• การตรวจภายนอกรถ เช่น โคมไฟ สี ประตู บังโคลน กระจกข้าง ฯลฯ
• การตรวจใต้ท้องรถ เช่น ตรวจสอบวัดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) และก๊าซไฮโดรคาร์บอน (HC) ส่วนรถยนต์เครื่องดีเซล ต้องตรวจควันดำ ไม่เกินร้อยละ 50 และความทึบแสงไม่เกินร้อยละ 45 ส่วนการตรวจวัดเสียงรถ ไม่เกิน 100 เดซิเบล ฯลฯ 

อายุรถที่ต้องตรวจสภาพที่ตรอ.ก่อนต่อภาษีรถยนต์

สำหรับคำถามอายุรถเท่าไหร่ถึงจะต้องไปตรวจสภาพที่ตรอ.ก่อนต่อภาษีรถยนต์ คำตอบก็คือ ดูที่ประเภทของรถ เพราะรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์จะกำหนดอายุรถที่ต้องตรวจสภาพที่ตรอ.ก่อนต่อภาษีไม่เท่ากัน โดยรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปี หรือมอเตอร์ไซค์ 5 ปี นับตั้งเเต่วันที่จดทะเบียนรถครั้งแรก ควรนำไปตรวจสภาพรถกับ ตรอ. ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปี โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

• รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน, เกิน 7 คน, รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ฯลฯ ที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
• รถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ที่มีอายุการใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
• รถยนต์ส่วนบุคคลและรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่ค้างชำระภาษีประจำปีเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี

หากรถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ของคุณเข้าเกณฑ์และถึงเวลาต้องต่อภาษีรถยนต์ก็อย่าลืมที่จะนำรถที่คุณรักไปตรวจสภาพที่ตรอ.ก่อนต่อภาษีรถยนต์ให้ทันกำหนด (อย่างน้อยภายใน 3 เดือนก่อนหมดอายุ)

ตรวจสภาพรถกับ ตรอ. ต้องใช้รถไหม? มีเอกสารอะไรบ้าง?

ส่วนในเรื่องของเอกสารเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถที่ตรอ. ก่อนต่อภาษีรถยนต์จำเป็นต้องใช้เอกสารเหล่านี้ด้วย

• รถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ที่จะนำไปตรวจสภาพกับตรอ. เพื่อต่อภาษีรถยนต์
• สมุดเล่มทะเบียนรถ (ทะเบียนรถยนต์เล่มสีน้ำเงิน ส่วนทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์เล่มสีเขียว) หรือใช้สำเนาทะเบียนรถ เช่น ถ้ารถกระบะจดว่าใส่หลังคา หากสำเนาที่นำมาแสดงไม่มีหลังคาด้วย ตรอ. ก็จะไม่สามารถตรวจสภาพรถให้ได้ นอกจากนี้ ถ้ารถติดสัญญาอยู่กับสถาบันการเงิน หรือ บริษัทให้บริการสินเชื่อ โดยที่ไม่มีเล่มทะเบียนอยู่กับเจ้าของรถก็จะสามารถใช้สำเนาเล่มทะเบียนที่ผู้ให้บริการสินเชื่อจะต้องให้เราเก็บไว้แทนได้ แต่ต้องระวังว่าตัวสำเนาจะต้องมองเห็นเลขทะเบียนรถ ชื่อผู้ครอบครองรถ และ เลขเครื่องยนต์ชัดเจน

ตรวจสภาพรถยนต์ ราคากี่บาท ต้องเสียเงินเท่าไหร่?

ราคาการตรวจสภาพรถ ตรอ. จะแบ่งออกตามประเภทรถ ดังนี้

• รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
• รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 160 บาท / หากมีน้ำหนักเกิน 1,600 กิโลกรัม คันละ 250 บาท

*ถ้าตรวจสภาพรถที่ตรอ.ก่อนต่อภาษีรถยนต์ผ่านก็จะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้อีก แต่ถ้าตรวจไม่ผ่าน ตรอ.จะแจ้งข้อบกพร่องให้เจ้าของทราบ หากแก้ไขแล้วนำไปตรวจที่เดิมภายใน 15 วัน จะเสียค่าใช้จ่ายเพียงครึ่งหนึ่งของค่าบริการที่กำหนดไว้ แต่หากเกิน 15 วัน หรือไปตรวจที่อื่นจะเสียค่าบริการเต็มอัตรา

ตรวจสภาพรถยนต์กับ ตรอ. ไม่ผ่าน ต้องทำยังไงบ้าง?

หากการตรวจสภาพรถยนต์ กับ ตรอ.ใกล้บ้านผ่านเกณฑ์ทุกข้อ ตรอ. จะออกใบรับรองตามกำหนดกรมการขนส่งทางบกมาให้คุณเพื่อนำไปทำเรื่องต่อภาษีรถยนต์ประจำปีในลำดับถัดไป โดยหลักฐานที่ได้มาจะมีอายุเพียงแค่ 3 เดือน ดังนั้น เมื่อตรวจสภาพรถยนต์ผ่านควรทำเรื่องต่อภาษีรถให้เร็วที่สุด

กรณีที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสภาพรถกับทาง ตรอ. จะแจ้งข้อบกพร่องที่เป็นสาเหตุทำให้รถไม่ผ่าน เพื่อที่จะได้นำไปแก้ไขแล้วกลับมาตรวจสภาพรถยนต์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะต้องทำการแก้ไข และนำกลับไปตรวจสภาพรถที่ ตรอ. ที่เดิมภายในระยะเวลา 15 วัน โดยค่าบริการการตรวจใหม่จะคิดแค่ครึ่งเดียวจากประเภทรถของคุณ

ตรวจสภาพรถยนต์ที่ไหนดี

หากต้องการตรวจสภาพรถยนต์ที่ ตรอ. ใกล้บ้าน เพียงแค่เสิร์ชหาใน google.com ว่า ‘ตรอ. ใกล้ฉัน’ ก็จะเจอข้อมูลทันที ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่า จะตรวจสภาพรถยนต์ที่ศูนย์ตรวจสภาพรถยนต์ตรอ.ที่ไหนดี พร้อมข้อมูลละเอียดเพิ่มเติมได้ง่ายๆ หรือตรวจสอบจากรายชื่อ ตรอ. ทั่วประเทศ โดยกรมการขนส่งทางบก ได้ที่ http://www.autocheck.in.th/pdf/mt09102014_1936.pdf

ตรอ. เปิดวันไหนบ้าง ?

สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ส่วนใหญ่จะเปิดบริการทุกวัน รวมถึงวันเสาร์และอาทิตย์ แต่เพื่อความชัวร์ควรติดต่อสอบถามข้อมูลกับ ตรอ. ที่คุณสนใจ โดยตรงเพื่อตรวจสอบวัน-เวลาทำการ, ประเภทรถที่รับบริการตรวจสภาพ และค่าใช้จ่ายในการตรวจสภาพรถให้ก่อนเข้ารับบริการ จะได้ไม่เปลืองเงินเปลืองเวลา

รายงานผลตรวจสภาพรถ เช็คได้ที่ไหน?

รถที่ผ่านการตรวจสภาพรถ เจ้าหน้าที่จะจัดพิมพ์รายงานผลการตรวจสภาพรถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ จากระบบสารสนเทศของกรมการขนส่งทางบก โดยจะมีระบุวันที่ส่งผลการตรวจ สถานที่ตรวจ เลขใบอนุญาติจัดตั้ง ตรอ. และหมายเลขทะเบียนของรถที่ตรวจ ประเภทรถ และสรุปผลการตรวจสภาพ ซึ่งคุณสามารถดูผ่านระบบออนไลน์ได้ที่  https://v5.inspection.in.th/inspectionreport/searchinfo

รถแบบไหนบ้างที่ไม่สามารถตรวจสภาพรถยนต์ กับ ตรอ. ได้

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า ตรอ.เป็นภาคเอกชนที่ช่วยให้คนมีรถสามารถตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ไวขึ้น โดยทาง ตรอ. มีเงื่อนไขกำกับเอาไว้ว่า ถ้ารถมีลักษณะเหล่านี้จะไม่สามารถนำมาตรวจสภาพรถได้ แต่ต้องไปตรวจสภาพรถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกแทน ซึ่งลักษณะรถที่ว่า คือ

• รถที่ทำการดัดแปลงสภาพไม่เหมือนตอนที่จดทะเบียนเอาไว้
• รถที่ทำการเปลี่ยนสีตัวถัง เปลี่ยนแปลงตัวรถ หรือส่วนใดส่วนหนึ่งจนไม่เหมือนรายละเอียดที่ระบุเอาไว้ในคู่มือทะเบียนรถ เช่น การเปลี่ยนเครื่องยนต์ การเปลี่ยนชนิดน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
• รถที่ไม่แสดงเลขตัวรถ หรือเลขเครื่องยนต์ โดยมีการขูด ขีด แก้ไข ชำรุด จนไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้
• รถที่เจ้าของแจ้งไม่ใช้ชั่วคราว หรือแจ้งการไม่ใช้รถตลอดเอาไว้กับกรมการขนส่ง
• รถเก่าที่มีเลขทะเบียนรุ่นเก่า เช่น กท-00001, กทจ-0001 จะต้องทำการเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่
• ยานพาหนะที่เคยสูญหาย หรือโดนโจรกรรมแล้วได้คืน
• รถที่ขาดต่อทะเบียนเกิน 1 ปี

ถ้าปล่อยให้ภาษีรถขาด เสียค่าปรับกี่บาท?

การปล่อยให้ภาษีรถยนต์ขาดไม่ว่าจะตรวจสภาพกับตรอ.หรือกรมการขนส่งทางบกก็ตามจำเป็นจะต้องเสียค่าปรับที่กรมการขนส่งทางบก ในอัตราเดือนละ 1% ตามอัตราค่าภาษีรถยนต์ประจำปีที่ต้องชำระ ถ้าตรวจพบว่า รถยนต์ไม่ได้มีการต่อภาษีรถยนต์ตามกำหนดก็จะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ยิ่งเคสไหนหนักถึงขั้นปล่อยให้รถยนต์ขาดภาษีมากกว่า 3 ปีขึ้น รถยนต์ของคุณก็มีโอกาสที่จะถูกระงับป้ายทะเบียนรถยนต์ทันที

เพราะงั้นหากคุณกำลังเตรียมจะไปตรวจสภาพรถยนต์ก่อนต่อภาษีที่ตรอ.ใกล้บ้านก็อย่าลืมอ่านบทความนี้ให้จบเตรียมข้อมูล เอกสาร และเงินให้ครบ รวมถึงระวังในเรื่องต่างๆ ที่เรานำมาฝาก เพียงเท่านี้ก็จะไม่ต้องเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายไปโดยเปล่าประโยชน์เลยล่ะ

สรุป

ความสำคัญของการตรวจสภาพรถยนต์กับตรอ.ก่อนต่อภาษีรถยนต์ ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัยขณะขับขี่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการยื่นภาษีรถยนต์ การตรวจสภาพรถนี้มีรายละเอียดการตรวจหลายอย่าง เช่น ข้อมูลของรถ, ระบบภายในและภายนอกรถ, การตรวจก๊าซและเสียงรถ, และอายุรถที่ต้องตรวจอีกด้วย การตรวจสภาพรถยนต์นี้เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการยื่นภาษีรถยนต์ประจำปี หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยยชน์กับทุกท่านครับ

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

• รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร มีแบบไหน ขั้นตอนอย่างไรบ้าง?
• แบตเตอรี่รถยนต์ต้องเลือกแบบไหน ยี่ห้อไหนดี?
• อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันรถยนต์: วิธีประหยัดน้ำมันที่ควรรู้!
• ติดฟิล์มรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี?

ตรวจสภาพรถยนต์ที่ ตรอ.ใกล้บ้านคุณแล้ว หากสนใจติดฟิล์มกรองแสง อย่าลืมติดต่อ Topfilm Thailand ได้เลยครับ

หลายคนยังสนใจอ่านบทความน่ารู้เหล่านี้