ฝ่าวิกฤตค่าไฟแพงไปกับวิธีประหยัดไฟที่เริ่มได้ด้วยตัวคุณเอง
ในยุคที่ค่าไฟแพงแบบไม่พักแบบนี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนถือว่าดีที่สุดแล้ว จะมีอะไรดีไปกว่าการเริ่มประหยัดไฟด้วยตัวคุณเอง บางอย่างถึงแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่เมื่อเราอยู่ในยุคที่ค่าไฟแพงแบบนี้ก็ขอประหยัดค่าไฟให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จะดีที่สุด
วันนี้ Topfilm Thailand จะพามาดู 11 วิธีประหยัดค่าไฟ ที่จะมาช่วยให้คุณประหยัดไฟได้ด้วยตัวคุณเอง ไม่ต้องง้อใคร มีอะไรบ้างมาดูกันเลย
1. วิธีประหยัดไฟด้วยการดึงปลั๊กหลังไม่ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกครั้ง
ทุกครั้งที่เลิกใช้งานควรดึงปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าออกทุกครั้ง ถึงแม้ว่าคุณปิดเครื่องแล้วก็ตาม แต่กระแสไฟฟ้ายังคงไหลเวียนเข้ามาอยู่ทำให้เปลืองไฟได้เหมือนกัน อีกทั้งยังช่วยป้องกันไฟไหม้ ที่เกิดจากปัญหาไฟลัดวงจรได้อีกด้วย
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเลิกใช้งานควรถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่เราไม่อยู่บ้าน ให้สำรวจความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านทุกครั้งว่าได้ทำการดึงปลั๊กไฟเรียบร้อยแล้ว วิธีนี้นอกจากจะเป็นวิธีประหยัดไฟแล้วยังช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัยจากไฟฟ้าลัดวงจรได้ด้วย
2. วิธีประหยัดไฟด้วยการเลือกใช้หลอดไฟ LED
หลอดไฟที่บ้านคุณใช้แบบไหนอยู่ แบบหลอดนีออน หลอดไส้ หรือหลอดไฟ LED ถ้าหลอดไฟของคุณยังเป็นหลอดไฟแบบธรรมดา เช่น หลอดนีออน หลอดไส้ ให้เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED เพราะหลอดไฟ LED จะกินไฟน้อยกว่า และยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไป และยังมีความสว่างมากกว่าหลอดไฟธรรมดาทั่วไปอีกด้วย เป็นวิธีประหยัดไฟที่ทำให้เห็นผลในระยะยาว
3. วิธีประหยัดไฟด้วยการปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้า 30 นาที
วิธีประหยัดไฟที่ทำได้ง่าย ๆ และหลายคนอาจคาดไม่ถึง คือตอนก่อนเลิกใช้งานเครื่องปรับอากาศ ให้เผื่อเวลาในการปิดเครื่องประมาณ 30 นาทีก่อนออกจากห้อง จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟขึ้นได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อนเพราะหลังจากปิดเครื่องปรับอากาศในห้องนั้นก็จะยังมีไอเย็นเหลืออยู่ ถ้าหากเป็นคนขี้ร้อนก็ให้เปิดพัดลมช่วยได้ แต่อย่าเพิ่งเปิดประตูหรือหน้าต่างเพราะจะทำให้ไอเย็นจะระเหยออกไปจนหมด
4. วิธีประหยัดไฟด้วยการอาบน้ำอุณหภูมิปกติ
หลายคนมักจะติดอาบน้ำอุ่นในตอนที่มีอากาศหนาวเพราะจะช่วยให้ผ่อนคลาย แต่ในหน้าร้อนแบบนี้ที่ค่าไฟพุ่งสูงเครื่องทำน้ำอุ่นอาจไม่จำเป็นสักเท่าไหร่ ในช่วงหน้าร้อนให้คุณปิดการใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่น และสับสวิตช์ลงเพื่อไม่ให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านในตอนที่ไม่ใช้งาน แล้วอาบน้ำในอุณหภูมิปกติแทนได้ทั้งความสดชื่น และความสบายใจว่าค่าไฟจะไม่พุ่งแน่นอน
ยิ่งประเทศไทยที่มีอากาศร้อนเกือบทั้งปีอยู่แล้ว ซึ่งวิธีประหยัดไฟด้วยการปิดใช้งานเครื่องทำน้ำอุ่นช่วยคุณประหยัดไปได้ยาวแน่นอน เพราะกว่าหน้าหนาวจะมาถึงประกอบกับความหนาวที่มาเพียงไม่กี่วัน ไม่ทันได้เปิดใช้เครื่องทำน้ำอุ่น ไม่กี่วันก็หายหนาวแล้ว
5. วิธีประหยัดไฟมากขึ้นด้วยการลดแสงที่เข้ามาในห้อง
ห้องที่แสงแดดส่องจัด ๆ หรือห้องที่มีความร้อนสะสมมาก ถ้าไม่ได้ทำการระบายอากาศให้ห้องเย็น จะทำให้เปลืองไฟฟ้าได้ เนื่องจากความร้อนในห้องส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ในห้องนั้น ตลอดจนเครื่องปรับอากาศทำงานหนักทำให้กินไฟมากขึ้น ดังนั้นควรหาม่านมาติดที่หน้าต่างเพื่อช่วยกรองแสงอาทิตย์ไม่ให้ส่องมายังห้องมากเกินไป
หรือถ้าใครที่อยู่ในคอนโดชั้นสูง ๆ ห้องที่รับแสงแดดเต็ม ๆ หรือห้องที่มีหน้าต่างจำนวนมากผ้าม่านอาจเอาไม่อยู่ จะต้องติดฟิล์มกรองแสงเข้ามาช่วย จะกันทั้งความร้อนและรังสี UV ได้ดียิ่งขึ้น เป็นทั้งวิธีประหยัดไฟและเป็นวิธีที่ช่วยให้ห้องเย็นขึ้นในคราวเดียวกัน
6. วิธีประหยัดไฟด้วยการปิดไฟดวงที่ไม่ใช้
วิธีประหยัดไฟแบบใกล้ตัวแต่หลายคนชอบลืม คือปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ เป็นวิธีประหยัดค่าไฟที่ง่ายที่สุดแล้ว แต่หลายคนก็มักจะลืมปิดไฟโดยเฉพาะไฟห้องน้ำ หรือในตอนกลางวันด้วยความเคยชินเราอาจจะชอบเปิดไฟในห้องที่เราอยู่ หากอยากประหยัดไฟมากขึ้นให้ปิดไฟแล้วเปิดม่านเพื่อรับแสงจากภายนอกเข้ามา หรือหากเป็นห้องทำงานให้หาโคมไฟตั้งโต๊ะมาช่วยแทนการเปิดไฟทั้งห้อง ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ดี
7. วิธีประหยัดไฟด้วยการแยกสวิตช์ไฟออกเป็นจุด ๆ
สวิตช์ไฟฟ้าถ้ามีหลายจุดในห้อง ไม่ควรใช้สวิตช์ไฟรวมกัน เพราะถ้ากดเปิดไฟก็จะเปิดทั้งห้อง แต่ถ้าเราไม่มีความจำเป็นที่จะให้ห้องสว่างไปทั้งห้อง หรืออยากให้ห้องสว่างแค่บางจุดก็กลายเป็นว่าต้องเปิดไฟทั้งห้อง ทั้งเกินความจำเป็นและยังเปลืองไฟอีกด้วย วิธีประหยัดไฟในขั้นตอนการติดตั้งสวิตช์ไฟควรทำแยกกันเป็นจุด ๆ เพื่อที่จะได้เลือกเปิดในบางจุดที่ต้องการใช้ได้ ไม่เปลืองไฟ
8. วิธีประหยัดไฟด้วยการจัดระเบียบตู้เย็น
หากช่วงนี้ค่าไฟแพงขึ้น ให้ลองสำรวจสภาพภายในตู้เย็นดูก่อนว่าอยู่ในสภาพไหน ถ้าในตู้เย็นเก็บของอย่างเป็นระเบียบสบายใจได้เลย ว่าคุณมาถูกทางแล้ว เพราะการจัดของในตู้เย็นให้เป็นระเบียบ ไม่แน่นจนเกินไป และไม่ปิดทางลมแอร์ จะทำให้ตู้เย็นทำงานอย่างปกติไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ภายในตู้เย็นของคุณไม่เรียบร้อยและอัดแน่นไปด้วยสิ่งของต่าง ๆ ที่คุณได้ยัดไว้จนตู้เย็นแทบระเบิด ให้รู้ไว้ว่าขณะนี้ตู้เย็นกำลังทำงานหนักขึ้นกว่าปกติ ลองหาเวลาว่างเคลียร์ตู้เย็น เพื่อนำสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องแช่ หรือของที่หมดอายุแล้วออกจากตู้เย็นให้ตู้เย็นมีที่ว่างมากขึ้น นอกจากจะเป็นวิธีช่วยประหยัดค่าไฟแล้วยังเป็นช่วยให้ตู้เย็นของคุณสะอาดตามากขึ้น
9. วิธีประหยัดไฟด้วยการเลือกขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้า
ควรเลือกขนาดของเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เหมาะสมกับจำนวนผู้อยู่อาศัย เช่น การเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศ ควรเลือกขนาด BTU ให้เหมาะสมกับคนใช้งานและขนาดห้อง เพราะยิ่งเครื่องปรับอากาศมี BTU สูงก็จะกินไฟมาก ทำให้เปลืองไฟเกินความจำเป็น
หรือขนาดของตู้เย็นหากมีสมาชิกในบ้านไม่เยอะมาก ก็ไม่ควรเลือกตู้เย็นที่มีขนาดใหญ่เกินหรือเลือกใช้ตู้เย็นที่เป็นแบบ 2 บานประตู เพราะจะกินไฟมากกว่าแบบประตูเดียว ซึ่งวิธีประหยัดไฟวิธีนี้จะช่วยให้คุณควบคุมความประหยัดไฟได้ตั้งแต่เริ่ม
10. วิธีประหยัดไฟตั้งแต่การเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟ
ทุกครั้งที่เลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5 จะหมายความว่าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานตามที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด ซึ่งมีระดับค่าประหยัดไฟสูงสุดเบอร์ 5 สามดาว
และนอกจากนี้บนฉลากเบอร์ 5 ยังมีข้อมูลอื่น ๆ บอกอีกด้วย ได้แก่ ปีที่ทำการทดสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า ประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้า ค่า SEER หรือ ค่าการใช้พลังไฟฟ้าต่อปี (ยิ่งค่า SEER เยอะประหยัดไฟมาก) และข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนั้น ซึ่งวิธีประหยัดไฟตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า จะช่วยให้คุณประหยัดไฟมากขึ้นในระยะยาว เพราะเราได้คัดแล้วในเบื้องต้นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราเลือกมานั้นกินไฟน้อยนั่นเอง
11. วิธีประหยัดไฟด้วยการติดฟิล์มกรองแสง
การติดฟิล์มกรองแสงในบ้านที่สามารถช่วยให้คุณประหยัดไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ และยังช่วยให้ห้องเย็นขึ้นได้อีกด้วย เพราะฟิล์มกรองแสงจะสามารถป้องกันรังสีอินฟราเรด หรือ รังสีความร้อนได้โดยเฉพาะ และกระจกก็ยังเป็นส่วนที่ความร้อนเข้ามาง่ายที่สุด และเข้ามาเป็นจำนวนมากอีกด้วย การติดม่านอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ เพราะม่านกันได้แต่แสง แต่ไม่ได้กันความร้อนได้ดีทีเดียว การติดฟิล์มกรองแสงทำให้แอร์ทำงานน้อยลง เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ร้อน เมื่ออุณหภูมิในห้องไม่ร้อน การใช้ไฟก็จะน้อยลงไปด้วยนั่นเอง
สรุป
ครบแล้วทั้ง 11 วิธีประหยัดไฟที่คุณเริ่มได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ช่วยให้คุณประหยัดไฟแบบได้ผลจริงอย่างคาดไม่ถึง เช่น การติดหลอด LED การจัดระเบียบตู้เย็น การไม่ใช้เครื่องทำน้ำร้อน การติดฟิล์มกรองแสง เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม ซึ่งถ้าทำได้เยอะ คุณก็สามารถประหยัดไฟ ประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งหากจะเลือกติดฟิล์มกรองแสงให้คุ้มค่า ก็ต้องเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือและมีฟิล์มกรองแสงที่มีประสิทธิภาพ อย่าง “บริษัทติดฟิล์มกรองแสง TOPFILM Thailand” ผู้ให้บริการรับติดฟิล์มกรองแสงที่มาพร้อมกับบริการที่น่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่ ด้วยฟิล์มติดกระจกหลากหลายยี่ห้อ หลายชนิด จากแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นฟิล์มใส ฟิล์มดำ ฟิล์มปรอท ฟิล์มนิรภัย เข้ามาเลือกดูได้เลย
หากคุณสนใจติดฟิล์มกันความร้อนประหยัดค่าไฟ โทรหาเราสิครับ
หลายคนยังสนใจอ่าน บทความน่ารู้เพิ่มเติม
[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มอาคาร ที่มีประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงมากกว่า 10 ปี สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาการเลือกฟิล์มกรองแสงที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ