ก่อนติดฟิล์มรถยนต์ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

ก่อนติดฟิล์มรถยนต์ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?

สำหรับใครที่กำลังวางแผนที่จะติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คันใหม่ หรือรถเก่าที่ต้องการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสง หากต้องการฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์ในการงานและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน เราควรจะมีการเตรียมตัวก่อนติดฟิล์มอย่างไร วันนี้ Topfilm Thailand เรามีคำแนะนำ มาดูกันเลยครับ

ข้อควรรู้ก่อนติดตั้งฟิล์มรถยนต์

1. เช็คกระจกก่อน หากบานหน้ามีรอยร้าวหรือรอยสะเก็ดหิน จะเปลี่ยนฟิล์มไม่ได้

ในการลอกฟิล์มเก่า จะต้องมีการดึงฟิล์มและกาวออกจากระจก ทำให้กระจกอาจจะสั่นสะเทือนได้ ถ้ามีรอยร้าวเป็นตามดเล็กๆแล้วไม่เคยผ่านการซ่อมกระจกมาก่อน การลอกฟิล์มมีโอกาสที่จะทำให้กระจกร้าวไปหมดเลยได้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากเปลี่ยนฟิล์มเบื่องต้นขอให้เช็ครอยร้าวของกระจกก่อน ถ้าไม่มีก็สามารถเปลี่ยนได้ครับ แต่ถ้ามีแนะนำให้ไปร้านซ่อมกระจก หรือ เปลี่ยนกระจกใหม่ก่อนถึงจะติดฟิล์มได้ครับ

2. ถ้าล้างรถสะอาด จะทำให้ช่างติดฟิล์มสะดวกขึ้น

ถ้าอยากให้ช่างทำงานสะดวกรวดเร็ว มีโอกาสเจอฝุ่นน้อย แนะนำให้ล้างรถมาก่อนติดฟิล์มกรองแสง เพื่อที่ช่างจะได้มองเห็นกระจกได้สะดวก แต่ถ้าไม่สะดวกล้างรถก็ไม่เป็นไรครับ เพราะก่อนการติดตั้งฟิล์มทุกครั้ง ช่างจะต้องมีการเช็ดทำความสะอาดกระจกอย่างละเอียดอยู่แล้ว

3. จองคิวที่ร้านก่อน จะได้ไม่ต้องรอนาน

เนื่องจากการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ นับว่าเป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียดค่อนข้างมาก ลูกค้าควรโทรนัดหมายเพื่อเข้าใช้บริการล่วงหน้า 1-2 วัน เพราะในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง และมากสุดถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวนช่างที่ติดตั้ง หรือขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์และฟิล์มเก่าของลูกค้าด้วย

4. เคลียสิ่งของมีค่าภายในรถ

ที่สำคัญอย่าลืมเคลียร์ของในรถ หากมีของมีค่า หรือของสำคัญต่างๆ ไม่ควรนำไปไว้ท้ายรถ เพราะขั้นตอนในการติดตั้งฟิล์มจะต้องใช้น้ำในการติดตั้ง อาจจะทำให้น้ำหยดลงไปในท้ายรถ ซึ่งปกติช่างติดตั้งฟิล์มกรองแสงทุกคนจะมีการคลุมผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาน้ำหยดท้ายรถ แต่เพื่อลดความเสียหาย แต่แนะนำว่าควรเคลียร์ออกให้หมดจะดีกว่า

มาถึงร้านแล้ว 5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกฟิล์มรถยนต์ ให้ถูกใจ

1. เน้นขับกลางวันหรือกลางคืนมากกว่ากัน

อันดับแรกที่จะต้องรู้เลยก็คือ เน้นใช้งานในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืนมากกว่ากัน หรือต้องการความเป็นส่วนตัวมากน้อยแค่ไหน หากเน้นใช้งานในตอนกลางวันเป็นส่วนมาก หรือต้องการความเป็นส่วนตัว ก็ควรจะเลือกเป็นความเข้มสูงๆ เช่น บานหน้า 60% รอบคัน 80% แต่ถ้าเน้นใช้งานตอนกลางคืนมากกว่า จะแนะนำเป็นบานหน้า 40% รอบคัน 60%

2. เน้นกันร้อนสูง หรือแค่กัน UV

ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปัจจุบันจะมีค่อนข้างเยอะ หลายแบรนด์ หลายตัวเลือก ดังนั้นควรจะศึกษาแต่ละแบรนด์ให้ละเอียด ว่าในแต่ละแบรนด์มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร เพื่อให้ได้ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพที่ดี

แนะนำให้อ่านบทความเพิ่มเติม: ติดฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี?

3. การลอกฟิล์มเก่า อาจจะส่งผลกับเส้นไล่ฝ้า

ในรถยนต์บางรุ่น การลอกฟิล์มเก่าอาจจะส่งผลกับเส้นไล่ฝ้าได้ ซึ่งในขั้นตอนการลอกฟิล์มเก่าทางเจ้าหน้าที่จะมีการตรวจสอบและแจ้งให้ทราบ หรือถ้าทางร้านไม่ได้มีการแจ้ง ลูกค้าควรสอบถามเพื่อป้องกันความเสียหายของไล่ฝ้า

4. ควรเลือกที่ไม่รบกวนสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์

ในฟิล์มกรองแสงรถยนต์บางรุ่นที่มีการฉาบด้วยโลหะ หรือที่เรียกว่าฟิล์ม อาจทำให้ส่งผลกับสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ได้ หากลูกค้าจะต้องใช้สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เช่น gps ,easy pass ควรจะศึกษาข้อมูลของฟิล์มกรองแสงแต่ละรุ่นให้ละเอียด

5. ควรเลือกร้านที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสงควรมีความน่าเชื่อถือ ไว้ใจได้

ควรเลือกร้านที่ช่างมีความชำนาญ และประสบการณ์ในการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ และร้านติดฟิล์มควรมีบริการหลังการขายในเรื่องการรับประกันสินค้าด้วย สามารถเช็คร้านติดฟิล์มได้จากรีวิวใน google map หรือ Facebook หรือ Pantip ยิ่งมีรีวิวดีมากจะยิ่งเป็นผลดีสำหรับคุณ

สนใจติดฟิล์มกันความร้อนกับทีมช่างมืออาชีพ โทรหาเราสิครับ

ติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสร็จแล้วแต่ยังมีต่อมน้ำ หรือคราบน้ำ ทำอย่างไร?

สำหรับอาการที่กระจกบานหน้ามีความมัวหลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสง หรือมองแล้วมีความรู้สึกว่าเบลอๆลักษณะเหมือนเป็นคลื่นๆ นั่นเพราะว่าเกิดจากอาการมีน้ำขังอยู่ภายในฟิล์มกรองแสง หรือที่เรียกว่าต่อมน้ำ/คราบน้ำนั่นเอง ซึ่งจะมีคราบน้ำ หรือต่อมน้ำนี้อยู่ทั่วทุกบาน ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล และเป็นเรื่องปกติ

เพราะในขั้นตอนการติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์นั้น ช่างจะต้องใช้น้ำในการติดตั้ง จะแนะนำให้จอดรถตากแดดเพื่อให้ฟิล์มเซ็ตตัวได้เร็ว หรือถ้าไม่สะดวกจอดรถยนต์ตากแดด ฟิล์มกรองแสงก็จะมีอายุการเซ็ตตัวอยู่ที่ประมาณ 7-10 วัน จะเซ็ตตัวแห้งสนิท ต่อมน้ำหรือคราบน้ำที่ฟิล์มกรองแสงจะหายไป แต่ถ้าหากภายในฟิล์มไม่ใช่ต่อมน้ำแต่เป็นพวกเศษฝุ่น ให้นำรถไปตรวจสอบกับทางร้าน และทำการแก้ไขทันที

หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์ไปแล้ว ควรดูแลอย่างไร

หลังจากติดตั้งฟิล์มกรองแสงรถยนต์เสร็จเรียบร้อย ข้อควรรู้และการดูแลรักษาฟิล์มกรองแสง มีดังนี้

1. หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสงเสร็จแล้ว ควรตรวจเช็คความเรียบร้อยของกระจกทุกบานก่อนออกจากร้าน และทางร้านจะต้องให้ใบรับประกันฟิล์ม
2. หลังติดตั้งฟิล์มกรองแสง ห้ามเลื่อนกระจกขึ้น-ลง เป็นเวลา 7 วัน เพื่อป้องกันปัญหาฟิล์มร่อน หรือเด้ง
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือทำความสะอาดกระจกด้านในที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสสงเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากฟิล์มยังคงไม่เซ็ตตัว อาจจทำให้ฟิล์มเกิดความเสียหายได้
4. หากมีกล้องหน้ารถยนต์ หรือ easy pass ควรรอให้ฟิล์มเซ็ตตัวก่อน ถึงจะสามารถติดอุปกรณ์ลงบนกระจกได้ เนื่องจาก อุปกรณ์ดังกล่าว ค่อนข้าวมีน้ำหนัก หากติดตั้งในตอนที่ฟิล์มยังไม่เซ็ตตัว จะทำให้ฟิล์มหลุดร่อน หรือเสียหายได้ ควรรอประมาณ 2-3 สัปดาห์
5. ห้ามใช้น้ำเช็ดกระจกเช็ดหรือทำความสะอาดบนผิวฟิล์ม เนื่องจากในน้ำยากระจกจะมีสารที่ทำให้ฟิล์มหลุด ร่อน และจะทำให้เสื่อมสภาพไวกว่าอายุการใช้งาน ควรเช็ดด้วยผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าเท่านั้น
6. หากใช้งานไป 3-4 สัปดาห์ แต่รู้สึกว่าฟองอากาศยังไม่หาย ควรปรึกษากับทางร้านที่เข้าไปติดตั้งฟิล์ม และนำไปให้ช่างแก้ไขทันที

สนใจติดฟิล์มกันความร้อนกับทีมช่างมืออาชีพ โทรหาเราสิครับ

หลายคนยังสนใจอ่าน บทความน่ารู้เพิ่มเติม

[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]