5 เทคนิค ข้อควรรู้เมื่อต้องการเปลี่ยนกระจกรถยนต์
สำหรับคนที่มียานพาหนะหรือรถยนต์นั้น สิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับรถคันโปรดของคุณนั้นก็คืออุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นกันชนหรืออุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นกับรถที่เรารัก และแน่นอนว่าสิ่งที่เราหนักใจมากที่สุดไม่ต้องเปลี่ยนอะไหล่รถยนต์นั่นก็คือกระจกของรถยนต์นั่นเอง
หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม
โดยรถยนต์นั้นมีส่วนประกอบที่เป็นกระจกหลายส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจกหน้ารถ กระจกหน้าต่างทั้ง 4 บาน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกระจกที่สามารถแตกได้เมื่อต้องกระทบกับของแข็งหรืออุบัติเหตุนั่นเอง ซึ่งเราก็คงไม่อยากขับรถที่กระจกร้าวๆใช่ไหมหละครับ ดังนั้น วันนี้เราจะมาแชร์ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนกระจกรถยนต์กัน
สอบถามราคาเปลี่ยนกระจกรถยนต์ โทรเลย
หากจำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนกระจกขึ้นมาจริงๆแล้วเราก็มีอะไรบ้างที่เราควรรู้? ราคากระจกแต่ละส่วนมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? เลือกกระจกอย่างไร? ระยะเวลาในการเปลี่ยนกระจกนานเท่าไร?
วันนี้เรามาแนะนำ 5 ข้อควรรู้ ก่อนเปลี่ยนกระจกรถยนต์กันครับ
1. กระจกรถยนต์ 2 ประเภท เลือกแบบไหนดี??
ในวงการรถยนต์ปัจจุบันนี้ มีการนำเอากระจกนิรภัยเข้ามาใช้งานกันมากยิ่งขึ้นเนื่องจากมีความคงทนและมีความปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน และประเภทของกระจกนิรภัยก็แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทได้แก่ ประเภทกระจกเทมเปอร์ และ ประเภทกระจกลามิเนต ซึ่งทั้งสองประเภทนี้ เป็นประเภทที่นิยมนำมาใช้งานมากที่สุด
ก่อนที่จะมาเป็นกระจกนิรภัยได้นั้นจะต้องมีการผ่านข้อทดสอบทั้งหมด 3 ข้อด้วยกันได้แก่
- ความแข็งแรงของกระจกต้องมีมากกว่ากระจกปกติถึง 3-5 เท่า
- เมื่อต้องพบกับแรงกระแทกที่เกินแรงต้านมากจนเกินไป กระจกจะต้องแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กไม่มีแหลมคม เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลในอุบัติเหตุนั่นเอง
- เมื่อกระจกเกิดความเสียหายหรือถูกกระแทกอย่างรุนแรง จะต้องไม่มีวัตถุที่สามารถทะลุผ่านกระจกเข้ามาได้
แล้วเราควรจะเลือกกระจกแบบไหนดี เรามีดูคุณสมบัติของกระจก 2 ชนิดกันเลยครับ
2. กระจกเทมเปอร์ VS กระจกลามิเนต ต่างกันอย่างไร?
กระจกเทมเปอร์
ความหนาของกระจกเทมเปอร์ จะอยู่ที่ประมาณ 5-6 มิลลิเมตร โดยกระบวนการผลิตจะต้องผ่านความร้อนอุณหภูมิ 650-700 องศาเซลเซียส และจะผ่านความเย็นในทันทีเพื่อให้มวลกระจกมีการอัดแรงดันตามธรรมชาติจึงทำให้กระจกเมื่อเกิดความเสียหายจะทำให้เป็นเม็ดเล็กๆไม่เป็นอันตรายนั้นเอง
กระจกลามิเนต
สำหรับกระจกลามิเนต มักจะนิยมใช้ติดตั้งในรถรุ่นใหม่ที่ใช้กันในปัจจุบันนี้เป็นส่วนใหญ่ โดยมีความหนาแน่นของกระจกอยู่ที่ 6 มิลลิเมตร ด้วยกระจกประเภทนี้จะมีการเคลือบด้วยสารต่างๆที่มี PVB และ EVA และมีการติดชั้นฟิล์มเพิ่มเข้าไปด้วย จึงทำให้กระจกประเภทนี้เมื่อเกิดความเสียหายหรือการแตก จะทำให้กระจกไม่ละเอียดเป็นเม็ด แต่จะยังคงยึดเกาะกันเป็นแผ่นเนื่องจากมีฟิล์มกระจกรองรับนั่นเอง
ในปัจจุบัน กระจกประเภท ลามิเนต จะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากมีความปลอดภัยมากกว่าครับ
3. ราคาเปลี่ยนกระจกรถยนต์ แพงไหม คิดอย่างไร?
ในปัจจุบันนี้รถยนต์ส่วนใหญ่มักจะใช้กระจกนิรภัยประเภท กระจกลามิเนต ซึ่งราคาของกระจกนั้นก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของรถ และร้านค้าที่จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับรถ ด้วยราคาคร่าวๆที่เราสามารถพบเจอได้ทั่วไปซึ่งอยู่ในเรทราคาเดียวกัน
ราคาเปลี่ยนกระจกบานหน้าจะอยู่ที่ราคา 2,000 – 4,500 บาท แล้วแต่รุ่นรถ ยี่ห้อรถ และปีที่ผลิต แต่โดยส่วนมากแล้ว ร้านเปลี่ยนกระจกรถยนต์ มักจะขายเป็น Package พร้อมกับการติดฟิล์มกรองแสงให้พร้อมกันเลย ซึ่งราคาติดฟิล์มรถยนต์ก็จะแตกต่างกันไปตามคุณภาพและยี่ห้อของฟิล์มกรองแสง ซึ่งจะมีตั้งแต่ ฟิล์มดำธรรมดาบานละ 1000 บาท ไปจนถึงฟิล์มเซรามิค บานละ 4000 บาท
ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ไม่รวมกันติดตั้งและเป็นราคามาตรฐานที่สามารถพบได้ทั่วไป แต่ถึงอย่างไรก็ดีคุณอาจจะต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นให้กับช่างที่มีความสามารถในการติดตั้งให้กับคุณ และคุณภาพของกาวที่ใช้ในการติดตั้ง เนื่องจากการติดกระจกรถยนต์นั้นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางคนธรรมดาไม่สามารถทำได้นั่นเอง ซึ่งร้านเปลี่ยนกระจกรถยนต์ดังๆในไทยก็จะมี Glasstech กับ Goodsureglass กับ Thai car glass เป็นต้น
แต่ถึงอย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้รถยนต์ยี่ห้อต่างๆก็ได้มีการออกแบบให้มีความสวยงามทั้งรูปแบบและดีไซน์ จึงทำให้กระจกรถนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงและมีการดัดแปลงให้มีความทันสมัยและมีความสวยงามเพิ่มเติมเข้าไปด้วย จึงทำให้ราคาของสินค้านั้นมีการขยับเขยื้อนที่สูงขึ้นตามความเหมาะสมของสินค้านั่นเอง
ข้อควรระวังหลังเปลี่ยนกระจกรถยนต์
หลังเปลี่ยนกระจกรถยนต์แล้ว ไม่ควรล้างรถ เคลือบแก้วกระจกรถ หรือใช้น้ำแรงดันสูงฉีดลงบนกระจกหน้ารถ เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้กาวที่ติดอยู่บนกระจก เซ็ตตัวแน่น และไม่ให้กระจกรถยนต์เลื่อน ซึ่งอาจจะทำให้น้ำซึมเข้ามาในตัวรถภายหลังได้ และที่สำคัญหากคุณไม่ได้ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์พร้อมกับติดกระจกในทันที จะต้องรอก่อนเป็นระยะเวลา 3 วันก่อนจะติดฟิล์มกรองแสงได้
เปลี่ยนกระจกรถยนต์ ใช้เวลานานไหม?
โดยปกติแล้วการเปลี่ยนกระจกรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ถ้าคุณต้องการเปลี่ยนกระจกรถยนต์พร้อมทั้งติดฟิล์มกรองแสงไปด้วย อาจจะใช้เวลานานถึง 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดกระจกและรุ่นรถ
สอบถามราคาติดฟิล์มนิรภัยกันกระจกแตก โทรเลย
4. วิธีการติดกระจกรถยนต์ สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
การติดกระจกรถยนต์นั้นมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าคุณภาพของกระจกรถยนต์เลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบและเทคนิคการติดตั้งนั้นสามารถทำให้เราใช้งานได้ในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นการใช้กาวที่เป็นส่วนหนึ่งในการยึดเกาะให้กับกระจกหน้ารถของเรา ซึ่งกล่าวแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดูคลิปวิธีการติดตั้งกระจกรถยนต์จากร้าน J Auto glass ด้านล่างครับ
ดังนั้นการติดตั้งกระจกแต่ละครั้งเราจะต้องแน่ใจว่าร้านที่เราส่งซ่อมรถนั้นจะต้องมีคุณภาพและสามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับเราได้เช่นเดียวกัน เมื่อมีการเปลี่ยนกระจกขึ้นมานั้นคนเรามักจะโฟกัสไปที่คุณภาพของกระจกมากกว่าวิธีการในการติดตั้งและประสิทธิภาพในการใช้งานต่อไป จึงทำให้คนที่อยากเปลี่ยนกระจกนั้นจะต้องรอบคอบในการเช็คในส่วนนี้อีกด้วย
ดังนั้น เพื่อให้รถที่คุณรักมีความสวยงามนอกจากจะต้องใช้บำรุงแล้วรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเพื่อให้รถของคุณใช้งานได้อย่างยาวนานและมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่าลืมใส่ใจดูแลรถของคุณให้ดีเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนทั้งต่อตัวคุณและผู้อื่น
5. ไม่อยากให้กระจกแตก ทำอย่างไรได้บ้าง
สำหรับสาเหตุการแตกร้าวของกระจกนั้นเปิดเต็มที่พบมากที่สุดนั่นก็คือจากเหตุการณ์อุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งง่ายต่อการแตกร้าวของกระจกเป็นอย่างมาก หรือแม้กระทั่งการกระแทกอย่างรุนแรงกับวัตถุรอบข้างก็สามารถทำให้เกิดเป็นรอยร้าวของกระจกได้ และในบางกรณีก็อาจเกิดจากการที่มีของแข็งตกใส่กระจก รวมไปถึงอุบัติเหตุหินตกใส่กระจกหน้ารถ ก็มีส่วนทำให้กระจกแตกได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการติดฟิล์มกันสะเก็ดหินภายนอก จึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ได้นั่นเอง
ฟิล์มกันสะเก็ดหิน กระจกบานหน้า Exoshield Gt3 เป็นฟิล์มที่ใช้สำหรับติดกระจกบานหน้ารถยนต์โดยเฉพาะ เป็นฟิล์มที่ติดภายนอก สามารถป้องกันกระจกแตกได้อยากดี ถือว่าเป็นอีก1 ตัวเลือกที่สามารถป้องกันกระจกแตกได้เป็นอย่างดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจอดรถอยู่เฉยๆก็มีโอกาสที่จะทำให้กระจกแตกได้ไม่ว่าจะเป็นความร้อนหรือความเย็น หรือสภาพของรถที่เก่าจนเกิน หรือลืมเปิดเส้นไล่ฝ้าทิ้งไว่ ไปก็อาจทำให้กระจกมีความเสื่อมสภาพตามลงไปตามอายุการใช้งานได้เช่นกัน
ดังนั้นการระมัดระวังกระจกของเรานั้นจึงเป็นไปได้ค่อนข้างยากที่เราจะควบคุมไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเหล่านี้ขึ้นได้ จึงเป็นหน้าที่ของเราในการใช้รถใช้ถนนให้อยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการลดความเสี่ยงในความเสียหายด้านกระจกของรถได้นั่นเอง
ติดฟิล์มนิรภัยรถยนต์กันกระจกแตก โทรเลย
หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม