ติดฟิล์มรถยนต์ 40 60 80 เลือกความเข้มเท่าไรดี?

ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรดี

ไขข้อสงสัย! ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรดี? 40 60 80

ฟิล์มรถยนต์ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ สำหรับรถยนต์ เพราะถือเป็นสิ่งที่จะช่วยปกป้องรถยนต์จากรังสียูวีและความร้อน ถนอมอุปกรณ์ภายในรถยนต์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันฟิล์มรถยนต์มีให้เลือกอยู่หลายประเภทด้วยกัน คุณสมบัติ ราคา อายุการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไป  สำหรับใครที่กำลังจะติดฟิล์มรถยนต์ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน ความเข้มเท่าไหร่

วันนี้ Topfilm Thailand ร้านติดฟิล์มอันดับ 1 ของไทย เรามีคำตอบมาฝาก ไปดูกันว่าฟิล์มรถยนต์สำคัญอย่างไร แล้วถ้าจะติดควรเลือกแบบไหน ความเข้มเท่าไหร่ดี?

เราตามมาดูกันเลยครับ

ตัวอย่างการติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มต่างๆ

ติดฟิล์มใส ติดฟิล์มรถยนต์ 40 60 ติดฟิล์มรถยนต์ 60 80

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

หากยังลังเลว่าติดฟิล์มความเข้มเท่าไรดี โทรหาเราสิครับ

call topfilmthailand

fb topfilm thailand

line topfilm thai

ก่อนจะมาดูว่าติดฟิล์มรถยนต์ความเข้มเท่าไรดี เราควรจะรู้ประเภทและความสำคัญของการติดฟิล์มก่อนครับ

ทำไมต้องฟิล์มรถยนต์ สำคัญอย่างไร?

ความสำคัญของฟิล์มรถยนต์ คือการเป็นตัวช่วยในการลดความร้อนภายในห้องโดยสาร ป้องกันแสงรังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลต ที่จะเข้ามาทำลายส่วนต่างๆ ภายในห้องโดยสาร ทั้งเบาะ พวงมาลัย หรือคอนโซลรถยนต์ นอกจากนี้ฟิล์มรถยนต์ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถยนต์ หรือช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวขณะขับขี่

ติดฟิล์มรถยนต์ มีกี่ประเภท

ฟิล์มรถยนต์ มีกี่ประเภท

ฟิล์มติดรถยนต์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่

ติดฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสี

  • ฟิล์มรถยนต์แบบย้อมสี (Dyed Window Tints)

เป็นฟิล์มรถยนต์แบบทั่วไป ที่จะช่วยกรองแสงอาทิตย์ให้มีความเข้มน้อยลง และกรองแสงรังสียูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตได้ในระดับหนึ่ง ลดปริมาณความร้อนสะสมภายในรถได้ไม่เกิน 50% เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีราคาถูก แต่เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ สีของฟิล์มจะเริ่มซีดลง มีโอกาสสร้างความเสียหายให้กับกระจกรถได้

อายุการใช้งาน : 1-3 ปี

ราคาติดรอบคัน : ประมาณ 1,000-2,000 บาท

ติดฟิล์มปรอท

  • ฟิล์มรถยนต์แบบเคลือบโลหะ (Metalized Window Tint)

หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า “ฟิล์มปรอท” เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีลักษณะแวววาว มีคุณสมบัติสะท้อนแสง ป้องกันรังสียูวีและสะท้อนความร้อนได้ดี ลดปริมาณความร้อนสะสมภายในรถได้ถึง 35-90 % เนื่องจากตัวฟิล์มจะถูกเคลือบสีที่มีส่วนผสมของโลหะ ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ แต่การติดฟิล์มเคลือบโลหะอาจส่งผลต่อการใช้งานของสัญญาณมือถือ อินเทอร์เน็ต GPS หรือ Easy Pass ได้ และในปัจจุบันก็ถือว่าเป็นฟิล์มที่ผิดกฎหมายด้วย

อายุการใช้งาน : 3-7 ปี

ราคาติดรอบคัน : ประมาณ 3,000-5,000 บาท

ติดฟิล์มรถยนต์ไฮบริด

  • ฟิล์มรถยนต์แบบไฮบริด (Hybrid Window Tints)

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่ผสมผสานกันระหว่างฟิล์ม 2 ชนิด คือฟิล์มย้อมสีและฟิล์มสีเมทัลไลซ์ เป็นการนำจุดเด่นของฟิล์มทั้ง 2 ชนิดมารวมไว้ด้วยกัน เนื้อฟิล์มมีความวาวแต่ไม่มาก มีการสะท้อนแสงได้ดี สามารถลดความร้อนได้ดีขึ้นถึง 70% และยังสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% ใช้งานได้นาน สีไม่ซีด สามารถป้องกันรอยขีดข่วน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่างๆ

อายุการใช้งาน : 5-10  ปี

ราคาติดรอบคัน : ประมาณ 5,000-10,000 บาทขึ้นไป

ติดฟิล์มรถยนต์คาร์บอน

  • ฟิล์มรถยนต์แบบคาร์บอน (Carbon Window Tints)

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีการนำโมเลกุลของคาร์บอนมาผสมไว้ในเนื้อฟิล์ม เป็นฟิล์มที่มีพื้นผิวด้าน คุณสมบัติคล้ายฟิล์มแบบเคลือบโลหะ แต่ไม่ได้วาวเท่า เอกลักษณ์ของฟิล์มคาร์บอนเมื่อดูจากภายนอกจะเห็นเป็นสีดำเข้ม แต่หากมองจากภายในรถจะยังมีความใส และมีความชัดเจนอยู่ สามารถสะท้อนแสง และลดความร้อนได้ดี ป้องกันรังสีอินฟราเรดได้สูงถึง 40% ทนทานต่อการใช้งาน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่างๆ 

อายุการใช้งาน :  10 ปีขึ้นไป

ราคาติดรอบคัน : ประมาณ 5,000-10,000 บาท

ติดฟิล์มรถยนต์เซรามิก

  • ฟิล์มรถยนต์แบบเซรามิก (Ceramic Window Tints)

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีการนำอนุภาคเซรามิกที่ไม่นำไฟฟ้า และไม่เป็นโลหะมาเป็นส่วนประกอบ มักถูกเรียกว่า “ฟิล์มนาโนเซรามิก” มองจากภายนอกแล้วสว่าง ไม่มืดทึบ ไม่บดบังทัศนวิสัยขณะขับขี่ ป้องกันแสงแดดและรังสีต่างๆ ได้ดีมาก สามารถลดความร้อนและรังสียูวีได้สูงถึง 99% มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่รบกวนสัญญาณดิจิทัลต่างๆ ด้วย

อายุการใช้งาน :  10 ปีขึ้นไป

ราคาติดรอบคัน : ประมาณ 5,000-12,000 บาท

สนใจติดฟิล์มรถยนต์หลากหลายประเทภ โทรหาเราสิครับ

call topfilmthailand

fb topfilm thailand

line topfilm thai

ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรดี

ติดฟิล์มรถยนต์ ความเข้มเท่าไรดี?

ฟิล์มรถยนต์จะมีความเข้มให้เลือกหลายระดับ ซึ่งแต่ละระดับก็จะมีความเข้มข้นของฟิล์มซึ่งเป็นตัวบ่งบอกถึงปริมาณของแสงอาทิตย์ที่จะส่องเข้ามาภายในตัวรถยนต์ที่แตกต่างกันออกไป โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระดับ

ติดฟิล์มใส
ติดฟิล์มบานหน้าใส ติดฟิล์มรถยนต์ใส ติดฟิล์มรอบคัน 40
  • ฟิล์มรถยนต์ 40% : เป็นฟิล์มที่มีค่าแสงสว่างส่องผ่านอยู่ที่ประมาณ 35% ขึ้นไป

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีความใส แสงสามารถส่องผ่านได้มาก ไม่ทึบจนเกินไป ไม่บดบังทัศนวิสัยขณะขับขี่ มองเห็นภายในห้องโดยสารได้จากภายนอก สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนทั้งการขับขี่กลางวันและกลางคืน 

ติดฟิล์มรถยนต์ 40 60
ติดฟิล์ม 40 60 ติดฟิล์มบานหน้า 40 ติดฟิล์มรถยนต์ 60
  • ฟิล์มรถยนต์ 60% : เป็นฟิล์มที่มีค่าแสงสว่างส่องผ่านอยู่ที่ประมาณ 15-35%

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีความเข้มปานกลาง แสงสามารถส่องผ่านได้ในระดับหนึ่ง ยังพอมองเห็นได้ชัดในเวลาแสงน้อยหรือตอนกลางคืน

 

ติดฟิล์มรถยนต์ 60 80
ติดฟิล์มบานหน้า 60 ติดฟิล์ม 60 80 ติดฟิล์มรถยนต์รอบคัน 80
  • ฟิล์มรถยนต์ 80% : เป็นฟิล์มที่มีค่าแสงสว่างส่องผ่านอยู่ที่ประมาณ  5-15%

เป็นฟิล์มรถยนต์ที่มีความเข้มสูง แสงสามารถส่องผ่านได้น้อยมาก มองเห็นภายในห้องโดยสารได้น้อยมากๆ จากภายนอก ทำให้รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวขณะขับขี่ แต่ทำให้การมองเห็นขณะขับขี่ไม่ดีเท่าที่ควรโดยเฉพาะในเวลากลางคืน จึงไม่นิยมติดที่บริเวณกระจกหน้าและกระจกหลัง

ซึ่งการเลือกความเข้มของฟิล์มรถยนต์ไม่มีข้อจำกัดที่ตายตัว กระจกแต่ละตำแหน่งสามารถเลือกใช้ฟิล์มที่มีความเข้มแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ เช่น

เลือกติดฟิล์มรถยนต์แบบ 60:80 : คือการเลือกติดฟิล์มที่กระจกหน้ากับกระจกหลังที่ความเข้ม 60% และติดรอบคันที่ความเข้ม 80% เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่อยากเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือผู้ที่ขับขี่ช่วงกลางวันเป็นหลัก

เลือกติดฟิล์มรถยนต์แบบ 40:60 : คือการเลือกติดฟิล์มที่กระจกหน้ากับกระจกหลังที่ความเข้ม 40% และติดรอบคันที่ความเข้ม 60% เหมาะสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการความชัดเจน หรือผู้ที่ขับขี่ช่วงกลางคืนเป็นหลัก

หลายคนยังไม่มั่นใจเรื่องความเข้มฟิล์มกรองแสง ปรึกษาเราสิครับ

call topfilmthailand

fb topfilm thailand

line topfilm thai

กฏหมายติดฟิล์มรถยนต์

กฎหมายกับการติดฟิล์มรถยนต์

หลายคนน่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับกฎหมายที่ว่าด้วยการติดฟิล์มรถยนต์กันมาบ้าง ถ้าเป็นสมัยก่อนทุกคนก็จะรู้กันดีว่าการติดฟิล์มรถยนต์ที่มีความเข้ม 80% ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว เพราะกฎหมายข้อนี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2543 แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะติดฟิล์มรถยนต์แบบไหนก็ได้ เพราะการใช้ฟิล์มปรอทยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ เนื่องจากฟิล์มปรอทเป็นฟิล์มที่มีค่าสะท้อนแสงสูง อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่น เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 

ที่ระบุว่า “มาตรา 12 รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว ในกรณีที่นายทะเบียนเห็นว่า เจ้าของรถไม่อาจจัดให้มีครบถ้วนถูกต้อง หรือเอาออกได้ ให้นายทะเบียนสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนรถนั้น เจ้าของรถมีสิทธิอุทธรณ์เป็นหนังสือต่ออธิบดีภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ทราบคำสั่งของนายทะเบียน คำวินิจฉัยของอธิบดีให้เป็นที่สุด”

ติดฟิล์มรถยนต์ผิดกฏหมาย ปรับกี่บาท?

หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฏหมายติดฟิล์มรถยนต์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ถ้าหากเปอร์เซ็นต์ของการสะท้อนแสงไม่มาก ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นก็ถือว่าไม่มีความผิดทางกฎหมาย

สรุป

ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันฟิล์มติดรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะจะช่วยปกป้องรถยนต์จากแสงแดดได้เป็นอย่างดี รวมถึงการติดฟิล์มรถยนต์ยังช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย แต่ถ้าถามว่าเลือกติดฟิล์มรถยนต์แบบไหน ความเข้มเท่าไหร่ถึงจะดี คงไม่มีคำตอบที่ตายตัว ต้องพิจารณาจากความต้องการของผู้ขับขี่แต่ละคน แนะนำให้เลือกฟิล์มรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ขับขี่มากที่สุด รวมถึงควรเลือกใช้ฟิล์มรถยนต์ที่มีคุณภาพและถูกต้องตามกฎหมายด้วย

ซึ่งหากคุณกำลังสนใจติดฟิล์มรถยนต์ หรือฟิล์มติดอาคาร โดยช่างมืออาชีพ Topfilm Thailand เรายินดีให้บริการติดฟิล์มกรองแสงทุกชนิด ทุกยี่ห้อ สอบถามเราได้เลยครับ

หลายคนยังสนใจ บทความน่ารู้เพิ่มเติม

อยากติดฟิล์มกรองแสงราคาพิเศษ ติดต่อเราสิครับ

call topfilmthailand

fb topfilm thailand

line topfilm thai