ตรวจสภาพรถยนต์ ต้องตรวจอะไรบ้าง? (6ข้อ ตรวจเองได้ง่ายๆ)

ตรวจสภาพรถยนต์ ตรวจอะไรบ้าง

การตรวจสภาพรถยนต์นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่คนมีรถยนต์ต้องทำเป็นประจำ เพื่อการใช้งานรถยนต์บนท้องถนนอย่างปลอดภัย และไม่เพียงเท่านั้นการตรวจสภาพรถยนต์นับว่าเป็นสิ่งที่เราต้องทำตามกฎหมายอีกด้วย

หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้เพิ่มเติม

• เคลือบแก้ว หรือ เคลือบสี อะไรดีกว่ากัน?
• เทคนิคลบรอยขนแมวทำอย่างไร?
• ติดฟิล์มรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี?

สนใจติดฟิล์มกรองแสง หรือ เคลือบแก้ว ราคาถูก สอบถามได้ทันที

แล้วการตรวจรถยนต์ในแต่ละครั้งนั้นมีการตรวจในส่วนไหนบ้าง หรือต้องทำอะไรบ้าง ถึงจะเรียกว่าการตรวจสภาพรถยนต์อย่างสมบูรณ์แบบ เราตามมาดูกันครับ

6 จุดที่ต้องตรวจรถยนต์อย่างละเอียด

1. การตรวจความถูกต้องของข้อมูลเกี่ยวกับรถ

2. การตรวจสภาพรถทั้งภายในและภายนอกของรถ

3. การตรวจสภาพความสมบูรณ์ของใต้ท้องรถ

4. การตรวจระบบการใช้งานของระบบเบรค

5. การตรวจสภาพไฟหน้ารถ

6. การตรวจสภาพระดับเสียงของรถ

1. การตรวจความถูกต้องของข้อมูลเกี่ยวกับรถ

การตรวจเช็คสภาพรถยนต์นั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีรถยนต์ ไม่เพียงเท่านั้นการตรวจความถูกต้องของข้อมูลรถยนต์ ก็มีความจำเป็นเช่นเดียวกัน

ทำไมการเช็คข้อมูลรถยนต์ถึงสำคัญ?

ในปัจจุบันนี้การนำเข้ารถยนต์ทั้งในรูปแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมายมีให้เราเห็นข่าวกันทุกวัน รวมไปถึงรถยนต์บางประเภทที่มีการชำแหละรถยนต์อย่างผิดกฎหมายและนำมาประกอบใหม่ก็มีเช่นเดียวกัน

ดังนั้นการซื้อรถยนต์ในแต่ละครั้งนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีการตรวจความถูกต้องและรถแต่ละคัน จะต้องมีประวัติแหล่งผลิตและแหล่งจำหน่ายรวมไปถึงข้อมูลเชิงลึก ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นบัตรประชาชนของรถนั่นเอง ดังนั้นหากรถที่คุณนำไปตรวจสภาพไม่มีข้อมูลและประวัติที่มาที่ไป ก็อาจจะถือได้ว่าเป็นรถที่ผิดกฎหมายก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม >> กฏหมายเกี่ยวกับฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เป็นอย่างไร?

ดังนั้นการตรวจความถูกต้องของข้อมูลเกี่ยวกับรถก่อนที่คุณจะนำเข้าศูนย์ นับว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อตัวผู้ถือครองรถยนต์ และมีประโยชน์ทั้งต่อระบบการขนส่งภายในประเทศอีกด้วย

การตรวจสภาพรถทั้งภายในและภายนอกของรถ

สำหรับการตรวจสภาพของรถยนต์เบื้องต้นนั้นง่ายที่สุดนั่นก็คือการดูจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของรถยนต์ภายนอกรวมไปถึงสีของรถยนต์ ก็สามารถทำให้เรารู้ได้ว่ารถของเรานั้นมีความบกพร่องและมีการเสื่อมสภาพภายนอกอย่างไรบ้าง

ไม่ว่าจะเป็นรอยบุ รอยขีดข่วน รอยขนแมว รวมไปถึงความสม่ำเสมอของสีรถ ที่อาจจะมีความสม่ำเสมอที่ไม่เท่ากัน ก็เรียกได้ว่าเป็นความเสื่อมสภาพของรถได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ด้วยการเคลือบแก้ว หรือ ติดฟิล์มกันรอยนั่นเอง

รวมไปถึงสภาพภายในรถไม่ว่าจะเป็นระบบการใช้งานของเครื่องยนต์ แล้วระบบการขับเคลื่อน ของรถยนต์ซึ่งเป็นระบบภายในที่เราต้องเช็คสภาพเป็นลำดับแรก เพื่อที่จะแก้ไขความเสื่อมสภาพการใช้งานในลำดับต่อไปนั่นเอง

ซึ่งอาการเหล่านี้เราสามารถที่จะแจ้งให้กับช่างหรือสถานที่ตรวจรถยนต์ของเราให้ทราบเบื้องต้นเพื่อที่จะได้รับการแก้ไขที่ถูกจุดนั่นเอง

หลายๆคน ยังสนใจบทความน่ารู้เพิ่มเติม

• ฟิล์มเซรามิค VS ฟิล์มดำ ต่างกันอย่างไร
• ติดฟิล์มกรองแสงหรือม่านดี

การตรวจสภาพความสมบูรณ์ของใต้ท้องรถ

ใต้ท้องรถก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญมากๆเพราะเป็นเครื่องยนต์ส่วนการดำเนินการที่ไม่มีเกราะป้องกันแต่อย่างใดและเป็นส่วนที่สัมผัสกับความร้อนรวมไปถึงน้ำฝน ที่สาดเข้ามายังใต้ท้องรถ

และไม่เพียงเท่านั้น ในการขับรถในสภาพพื้นผิวที่ไม่อำนวยต่อการขับรถอาจจะทำให้เครื่องยนต์กระทบหรือได้รับการกระแทกของแข็งหรือพื้นถนนที่ไม่เรียบได้ บอกได้เลยว่าใต้ท้องรถนั้นเป็นส่วนที่มีโอกาสเสื่อมสภาพได้สูงมากๆ

ขั้นตอนการตรวจสภาพใต้ท้องรถนั้นจึงจะมีขั้นตอนที่ละเอียดกว่าการตรวจสภาพรถจากภายนอก เพราะต้องดูสภาพการเสื่อมโทรมของใต้ท้องรถ หรือรอยขีดข่วนต่างๆที่อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของเชื้อเพลิงได้นั่นเอง

ดังนั้นรหัสใต้ท้องรถอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ จะเกิดผลเสียไปจนถึงการใช้งานรถที่อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้หรือต้องอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมลงและเมื่อต้องเข้าศูนย์อาจจะต้องใช้เวลานานในการซ่อมแซมอีกด้วย

การตรวจระบบการใช้งานของระบบเบรค

หนึ่งในส่วนที่สำคัญมากที่สุดนั่นก็คือระบบเบรค การตรวจสภาพการใช้งานของเบรคนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องได้รับการตรวจเช็คอย่างละเอียด เพราะไม่เพียงแค่จะทำให้เราใช้งานรถยนต์ได้อย่างปกติสุขแล้ว ยังสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

ที่สำคัญสภาพภูมิอากาศและท้องถนนของประเทศไทย นอกจากจะวิ่งอยู่บนถนนที่มีความร้อนสูงยังมีสภาพเป็นภูเขา และเป็นเนินอีกด้วย การใช้งานรถยนต์จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีระบบเบรคที่ได้มาตรฐานสูง

คุณลักษณะของเบรคที่ดีก็คือ

1. ไม่เบรคแข็งจนเกินไป เพราะถ้าเบรคแข็งจนเกินไปก็อาจจะทำให้ผู้โดยสารเกิดการบาดเจ็บได้หากมีการเบรกกะทันหัน
2. ไม่อ่อนจนเกินไป เพราะ ระบบการใช้งานเบรคที่อ่อนจนเกินไปก็อาจจะไม่สามารถที่จะเบรคได้ในระยะกระชั้นชิดซึ่งมีส่วนที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นการเช็คระบบเบรกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพราะแน่นอนว่าการขับขี่รถนั้นการใช้เบรคถือว่ามีจำนวนครั้งที่มากที่สุดเลยก็ว่าได้

การตรวจสภาพไฟหน้ารถ

ไฟหน้ารถถือว่าเป็นระบบที่เราใช้งานกันบ่อยที่สุดไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ทรถหรือเป็นการขับขี่รถในตอนกลางคืน เราจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟหน้ารถอยู่ตลอดเวลา

หากไฟหน้ารถของเรานั้นไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอก็อาจจะส่งผลให้เราไม่สามารถที่จะขับขี่รถในตอนกลางคืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าหากในรถของเรามีความสว่างมากจนเกินไปก็อาจจะส่งผลให้รถที่สวนทางกับเรานั้นเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย

ดังนั้นใส่หน้ารถจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่เราจะต้องหมั่นตรวจเช็คสภาพและมีการเปลี่ยนอะไรเมื่อมีความเสื่อมสภาพลงในทันที

การตรวจสภาพระดับเสียงของรถ

อีกหนึ่งส่วนที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามแล้วก็คือการตรวจสภาพระดับเสียงของรถนั่นเอง เพราะระดับเสียงของรถบ่งบอกถึงความผิดปกติของระบบการทำงานของรถได้

ดังนั้นการตรวจระบบเสียงของรถนั้นจำเป็นที่เราจะต้องหมั่นตรวจสอบและคอยสังเกตให้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพของรถที่ถูกใช้งานเป็นเวลายาวนานหลายปี จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องตรวจสอบเพราะเสียงดัง อาจส่งผลทำให้การขับขี่รถยนต์นั้นส่งผลกระทบต่อบุคคลรอบข้าง และอาจทำให้ผู้ขับขี่นั้นเกิดความรำคาญใจ และส่งผลเสียต่อคนขับรถด้านการได้ยินอีกด้วย

ดังนั้น หากรถของคุณมีเสียงที่ไม่ปกติ คุณจำเป็นที่จะต้องตรวจสภาพเสียงของรถเพื่อซ่อมแซมจุดบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็นการเบรคที่มีเสียงดัง หรือจะเป็นการเร่งที่มีเสียงดัง รวมไปถึงระบบคันเร่ง ก็อาจส่งผลทำให้เสียของรถยนต์ของคุณนั้นดังกว่าปกติได้

ดังนั้นเพื่อให้อยู่ภายใต้การควบคุมกฎหมายทางจราจรจำเป็นที่คุณจะต้องเข้ารับการตรวจสภาพรถหากมีความบกพร่องด้านนี้เกิดขึ้น

สนใจติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ราคาถูก สอบถามได้ทันที

โทร : 092-2689-689, 02-003-3583
Email : topfilm.th@gmail.com
Facebook : https://www.facebook.com/Topfilmthailand/
LINE : @Topfilmthai

หลายคนยังสนใจอ่านบทความน่ารู้เหล่านี้