รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร มีแบบไหน ขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

ทำความรู้จัก “รีไฟแนนซ์รถยนต์” ทางเลือกที่จะช่วยให้การบริหารเงินคล่องขึ้น

การขอสินเชื่อหรือการรีไฟแนนซ์อาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคุ้นเคยและเคยได้ยินกันมาบ้าง ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ หรือบัตรเครดิตก็ล้วนขอรีไฟแนนซ์ได้ทั้งสิ้น

ในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ไปพร้อมๆ กัน บอกไว้ตรงนี้เลยว่าการรีไฟแนนซ์รถยนต์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยให้การบริหารเงินของคุณคล่องตัวขึ้นอย่างแน่นอน

หลายคนยังสนใจบทความน่ารู้เพิ่มเติม

• เคลือบแก้ว หรือ เคลือบสี ดีกว่ากัน?
• เทคนิคลบรอยขนแมวที่คนรักรถควรรู้?
• ติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ เลือกยี่ห้อไหนดี?

รีไฟแนนซ์รถยนต์คืออะไร?

รีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ กระบวนการกู้ยืมเงินผ่านทางสถาบันทางการเงินเพื่อยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระรถยนต์คันนั้นๆ โดยคุณจะต้องนำรถยนต์ที่ต้องการรีไฟแนนซ์มาเป็นหลักค้ำประกัน สถาบันทางการเงินที่คุณเลือกทำรีไฟแนนซ์จะตรวจสภาพและประเมินราคาพร้อมตรวจเอกสารต่างๆ ว่าผ่านเกณฑ์หรือไม่จากนั้นถึงจะแจ้งผลกับคุณในระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์

รีไฟแนนซ์จำเป็นไหม?

การรีไฟแนนซ์รถยนต์ไม่จำเป็น แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีของเจ้าของรถหลายคน เนื่องจากระยะเวลาการผ่อนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าเดิม คุณสามารถนำเงินในส่วนนี้ไปต่อยอดธุรกิจ ลงทุนหรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้แบบไม่ต้องกังวลมากนัก นอกจากนี้สถาบันการเงินที่เปิดให้รีไฟแนนซ์รถยนต์ได้นั้นยังมักมาพร้อมโปรโมชันดีๆ อย่างการลดดอกเบี้ยอีกด้วย ทำให้การรีไฟแนนซ์รถยนต์นี้คุณได้รับเงื่อนไขที่ดีกว่าเดิม

ดอกเบี้ย เรื่องที่ควรระวังในการรีไฟแนนซ์

หากพูดถึงเรื่องที่คุณควรระวังมากที่สุดเมื่อต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็ต้องยกให้กับประเด็นด้านดอกเบี้ย ดอกเบี้ยเรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่คุณต้องให้ความสนใจ เนื่องจากเป็นส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้กำหนด นอกจากการประมาณการ ก็ไม่มีอะไรที่สามารถยืนยันได้เลยว่าดอกเบี้ยจะคงที่หรือไม่ ดังนั้นการคิดดอกเบี้ยส่วนนี้จะส่งผลต่อจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือนอย่างยิ่ง มาทำความรู้จักดอกเบี้ยทั้ง 2 ชนิดที่มักเจอในการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันเลย

1. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ (Fixed Rate)

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ (Fixed Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันทางการเงินกำหนดเอาไว้ตลอดอายุสัญญาเงินกู้ ถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่ไม่มีการปรับตัวแม้ว่าธนาคารกลางจะมีการอัปเดตเกณฑ์ดอกเบี้ยใหม่

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากสัญญาเงินกู้ทั้งหมด 3 ปี ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี ตลอด 3 ปีที่ต้องทำการผ่อนชำระก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยตรงนี้ ทำให้คุณสามารถคาดการณ์จำนวนเงินที่แท้จริงที่ต้องชำระได้ทันที

2. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัว (Floating Rate)

อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัว (Floating Rate) หมายถึง อัตราดอกเบี้ยที่สถาบันทางการเงินกำหนดเอาไว้แต่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอัตราได้ตลอดระยะของสัญญาเงินกู้ โดยปกติแล้วการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมีการใช้อัตราดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) ในการอ้างอิงเพื่อเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะๆ

ตัวอย่างเช่น ถ้าหากสัญญาเงินกู้ทั้งหมด 3 ปี ในปีแรกมีการคิดดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี แต่ในปีที่ 2 ของการผ่อนชำระอ้างอิงจากเรท MRR ธนาคารตัดสินใจคิดดอกเบี้ยเป็นร้อยละ 7 ต่อปี ก็จะทำให้คุณต้องชำระเงินมากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัวก็มีโอกาสที่จะลดลงกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาครั้งแรกเช่นกัน ทั้งหมดนี้คุณจะต้องติดตามกับสถาบันการเงินที่ทำการรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ

ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์ การรู้จักวิธีคิดดอกเบี้ยและรู้ว่าในสัญญาเงินกู้นั้นๆ เป็นการคิดดอกเบี้ยชนิดไหนก็จะช่วยทำให้คุณประเมินความเสี่ยงและคำนวณค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบได้ดียิ่งขึ้น เบื้องต้นสามารถเข้าตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อจากธนาคารแห่งประเทศไทยได้ที่ลิงก์นี้

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถยนต์

การรีไฟแนนซ์รถยนต์มีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ข้อดีอย่างแรกก็คือคุณจะสามารถยืดระยะเวลาในการผ่อนชำระออกไปได้ การที่มีระยะเวลาผ่อนชำระมากขึ้นก็จะส่งผลให้การใช้จ่ายในแต่ละวันของคุณไม่ตึงเครียดเหมือนเก่า 

ข้อดีข้อที่สองของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ก็คือคุณจะไม่ต้องผ่อนชำระต่อเดือนมากเท่าเดิม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยของการรีไฟแนนซ์มักจะเป็นอัตราที่ถูกกว่าเก่า เรียกได้ว่าเป็นข้อเสนอที่ดีกว่า เมื่อทำการคิดหักลบกันแล้วจะทำให้ภาระต่อเดือนลดลง ช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น

และข้อดีสุดท้ายก็คือคุณจะมีสภาพคล่องทางการเงินมากกว่าเดิม การที่มีเงินก้อนเข้ามาหมุนเวียน นอกจากจะใช้ปิดยอดกู้เก่าแล้ว สำหรับใครที่ต้องการเงินเข้ามาหมุนเวียนในชีวิตประจำวัน ต้องการโยกเงินในบางเดือนไปลงทุนหรือทำอย่างอื่น เงินก้อนจากส่วนต่างที่ได้มาส่วนนี้ก็สามารถช่วยคุณได้ การรีไฟแนนซ์รถยนต์จึงเป็นทางออกของหลายๆ คนในปัจจุบัน

รีไฟแนนซ์ที่ไหนถึงจะดีที่สุด

หากต้องการหาสถานที่ที่ทำรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ที่ดีสุด คุณจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลหลายอย่างด้วยกันมาพิจารณาเพราะแต่ละสถาบันการเงินก็มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยด้านการบริการ ด้านดอกเบี้ยหรือโปรโมชันของแต่ละสถาบันการเงินล้วนต่างกันทั้งสิ้น ส่วนใหญ่การทำรีไฟแนนซ์รถยนต์จะมี 2 กรณีด้วยกันที่สามารถเกิดขึ้นได้ คือ

• กรณีที่ 1 : รีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันการเงินเดิม โดยการปิดยอดกู้อันเก่าและทำสัญญาใหม่
• กรณีที่ 2 : รีไฟแนนซ์รถยนต์กับสถาบันการเงินใหม่ โดยการรีไฟแนนซ์กับสถาการเงินใหม่มักจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงกว่าเดิม บางที่อาจให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ในช่วง 1 – 3 ปีแรก จากนั้นจึงปรับเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัว

ดังนั้นการเลือกสถาบันทางการเงินเพื่อรีไฟแนนซ์ควรคำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก หากทำการเปรียบเทียบโปรโมชันของแต่ละสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้วก็จะเห็นส่วนต่างของเงินอย่างชัดเจน การทำแบบนี้จะทำให้คุณรู้ได้ว่าควรทำกับที่ไหนและสามารถประหยัดเงินค่าส่วนต่างต่างๆ ได้เท่าใด

รีไฟแนนซ์รถยนต์เครดิตบูโรสำคัญไหม?

มาถึงคำถามยอดฮิตในการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันอย่างเรื่องเครดิตบูโร หลายคนสงสัยว่าถ้าหากมีเครดิตไม่ดี มีประวัติการชำระเงินล่าช้า มีหนี้อยู่หลายส่วนด้วยกันจะทำการรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ เบื้องต้นมีเปอร์เซ็นต์สูงเกือบ 100% เลยทีเดียวที่การยื่นขอไฟแนนซ์รถยนต์ของคุณจะไม่ได้รับการอนุมัติ

เนื่องจากสถาบันทางการเงินที่จะปล่อยเงินกู้จะทำการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดอย่างละเอียด หากมีประวัติไม่ดีค้างอยู่ก็อาจทำให้โดนปฏิเสธได้ง่ายๆ ดังนั้นถ้าหากมีแพลนต้องการยื่นขอไฟแนนซ์ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือตรวจสอบเครดิตบูโรของตัวเอง ถ้าหากมีหนี้สะสมอยู่ก็ควรวางแผนชำระอย่างเป็นระบบและเมื่อเหลือยอดหนี้น้อยที่สุดหรือไม่มีหนี้จึงยื่นเอกสารขอรีไฟแนนซ์รถยนต์อีกครั้ง

ต้องผ่อนรถกี่ปีถึงจะรีไฟแนนซ์ได้?

อีกหนึ่งคำถามที่พบได้บ่อยๆ ก็คือเรื่องข้อกำหนดด้านการผ่อนชำระรถยนต์ก่อนทำการรีไฟแนนซ์ ยังผ่อนไม่หมดรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้หรือไม่? ถ้าผ่อนมา 1 ปีแล้วสามารถรีไฟแนนซ์รถยนต์ได้ไหม?

คำตอบคือเกณฑ์ที่จะยื่นขอไฟแนนซ์รถยนต์นั้นไม่ได้อิงจากระยะเวลาที่คุณผ่อนชำระ แต่การยื่นขอไฟแนนซ์รถยนต์จะทำได้ก็ต่อเมื่อคุณมีการผ่อนชำระรถยนต์ถึง 50% ของยอดทั้งหมดนั่นเอง

ดังนั้นถ้าหากคุณผ่อนชำระมานาน 4 ปีแต่ว่าเลือกผ่อนชำระต่อเดือนในอัตราต่ำ ทำให้ปัจจุบันยังชำระไม่ถึง 50% ของยอดหนี้ คุณก็จะยังยื่นขอรีไฟแนนซ์ไม่ได้นั่นเอง แต่ถ้าหากคุณเพิ่งผ่อนชำระมา 1 ปี แต่มีการชำระเงินไปแล้วมากกว่า 50% ของยอดหนี้ การยื่นขอรีไฟแนนซ์ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จะเห็นได้ชัดเลยว่าเรื่องของยอดหนี้เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าจำนวนปีที่คุณผ่อนมาทั้งหมดจริงๆ

สรุป

เป็นอย่างไรกันบ้าง พอจะรู้จักการรีไฟแนนซ์รถยนต์เพิ่มขึ้นมาหรือไม่ อย่างไรก็ตามการเลือกรีไฟแนนซ์รถยนต์ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนเริ่มดำเนินการเป็นการป้องกันความผิดพลาด โดยรวมแล้วการรีไฟแนนซ์รถยนต์เรียกได้ว่าเป็นอีกทางเลือกที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของคุณเลยทีเดียว แม้ว่าจะต้องผ่อนชำระรถยนต์นานขึ้น แต่ภาระในแต่ละเดือนก็เบาลงจนคุณขยับตัวได้คล่อง สามารถนำเงินส่วนต่างตรงนี้ไปลงทุนด้านอื่นๆ ได้นั่นเอง

ดูคลิปอธิบายเกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์เพิ่มเติมได้ด้านล่างเลยครับ

หากรีไฟแนนซ์รถยนต์เรียบร้อยแล้ว สนใจติดฟิล์มรถยนต์ อย่าลืม Topfilm Thailand ครับ

หลายคนยังสนใจอ่านบทความเหล่านี้เพิ่มเติม